ข่าว วันนี้ อยู่มานานหลายสัปดาห์ หมกศพห้องเก็บของ

ข่าว วันนี้ ข่าวอาชญากรรม ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พนักงานสอบสวน เวรสถานีตำรวจภูธรปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นำกำลังไปยังที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านมาดูเหตุการณ์ริมถนน บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุจำนวนมาก โดยพบว่าศพถูกห่อด้วยผ้าห่มหนา มีขาโผล่มาลักษณะเน่าเหม็น มีกลิ่นเหม็นรุนแรง
เสียชีวิตมานานกว่า 1 สัปดาห์ ผู้ตายชื่อนายธีระพงษ์อายุ 31 ปี จากการให้การของแม่ มีเพื่อนบ้านหลังข้างเคียงบอกว่า ได้กลิ่นคล้ายสัตว์ตาย จึงได้รีบวิ่งไปแจ้งหน่วยกู้ภัย ให้เข้าไปตรวจสอบ พบร่องรอยรากและมีเศษผม และคราบเลือด อยู่บริเวณหน้าห้องเก็บของ
จึงได้เปิดประตูเข้าไป พบศพถูกฆ่าแล้ว นำผ้ามาห่มทับร่างไว้ เบื้องต้นทราบว่า คบกับแฟนฝรั่งยังไม่ถึงปี และเกิดน่าจะทะเลาะหึงหวง เกิดการทำร้ายร่างกายกันขึ้น ฝรั่งจะคอยรับส่งลูกของตนบอกว่า พากันมาปาร์ตี้ 2 ถึง 5 ทุ่มฝรั่งได้ทักมาหาตนว่า คุณต้องการเงินเท่าไหร่ แม่บอกว่าอยากได้ 20,000 อาทิตย์หน้าเขาจะให้พ่อ 40,000 จ่ายงวดรถ เขาเมาหนักร้องเพลง
จากนั้นก็บอกว่า ให้แม่กลับมาก่อน แล้วก็หายไปตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนมีคนมาพบ จากการสอบสวน เพื่อนของผู้ตายในหมู่บ้านเดียวกัน ทราบว่าคบหากับชาวต่างชาติ ชาวรัสเซียได้ประมาณ 6-7 เดือนดูนัดเจอกันที่จังหวัดภูเก็ตชาวรัสเซียรายนี้ เดินทางมาที่บ้านครั้งแรก ในเดือนมกราคมผ่านมา ไม่ได้พาเข้าบ้านพบกันที่โรงแรม เบื้องต้นตำรวจจะต้องหา ตัวผู้ร้ายมารับผิดต้องสืบสวน สำนวนการต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
พ่อฝันถึงลูกชาย ข่าว วันนี้ แม่ บอกอาหารติดคอ สุดท้าย แฟนใหม่ทำร้ายลูกตาย

ข่าว เด็ดวันนี้ ข่าวอาชญากรรมช่อง7 ชายคนหนึ่งที่ได้เลิกกับภรรยาไปแล้ว และภรรยาได้มีสามีใหม่ ฝันถึงลูกชายวัย 4 ขวบไปดูบ่อยครั้ง จนอดีตเมียเพิ่งมาบอกว่า ลูกตายเพราะอาหารติดคอ ที่แท้ถูกแฟนใหม่ ซึ่งเป็นนักศึกษาทำร้ายร่างกาย การจับกุมครั้งนี้ เนื่องมาจากวันที่ 14 มิถุนายนอายุ 21 ปีอาชีพ Rider บิดาแท้ๆ ของเด็กชายหนุ่มผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี บอกว่าผู้ชายเสียชีวิตลงอย่างน่าสงสัย
โดยนายหนังให้ข้อมูลว่า เลิกรากับนางสาวนก อาชีพพนักงานเพ้นท์เล็บและ PR ร้านเหล้าผู้เป็นภรรยานอกสมรส และเป็นแม่ของเด็กตั้งแต่ปลายปี 64 จากนั้นมานางสาวนก ก็พาลูกไปไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ได้ฝันเห็นลูกชายมาเล่นด้วยแทบทุกวัน จนวันที่ 11 มิถุนายนใช้ Note มาหาในฝันแบบแปลกๆ คือมาถึงแล้วเดินหันหลังไม่ยอมพูดด้วย ทำให้นายหลังนั้นรู้สึกเอะใจ
จึงได้พยายามติดต่อไปหานางสาวนก จนนางสาวนกตอบกลับมาว่า เด็กชายหนูได้เสียชีวิต เพราะอาหารติดคอไปตั้งแต่เมื่อ วันที่ 27 พฤษภาคม และได้ทำการฌาปนกิจศพไปแล้ว นายหนังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังรู้ข้อมูลเรียกว่า อดีตภรรยาไปควบนายพัสวีที่หอพัก ในซอยได้ประมาณ 2 เดือน จึงพยายามติดต่อโรงพยาบาลวชิระ พยาบาลได้รับข้อมูลมาว่า เด็กชายโน้ต มีอาการบาดเจ็บคล้ายถูกทำร้าย เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 7
เบื้องต้นบรรดาเป็นผู้เดินทางมารับศพ โดยชันสูตรศพแพทย์ระบุว่าลำไส้เล็กส่วนกลาง ฉีกขาดหลายแห่ง และภาวะแทรกซ้อนจากลำไส้เล็กฉีกขาด จากการถูกทำร้าย ประเด็นนี้พ่อของเด็กชายโน๊ตจึงไม่เชื่อ และจึงได้เข้ารู้แจ้งผ่าน และปรึกษานางปวีณา แต่ตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานแน่นว่า สามารถเอาผิดพ่อเลี้ยงเอาเหตุรายนี้ได้ อย่างแน่นอน
ฆ่าโหด คนไทยในไต้หวัน ซุกศพ ในรถ สลดชบาหญิงกำลังท้องลูกแฝด คนฆ่าหนีกลับไทยข่าว วันนี้
ภาพข่าวอาชญากรรม สุดสะเทือนใจคนไทย ฆ่าคนไทยด้วยกันเองตาย 4 ศพ รวมด้วยกัน 4 ศพ รวมลูกแฝดในท้องถิ่น จบแล้วมีรถข้างทางรถไฟ ก่อนหลบหนีกลับไทย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ตำรวจได้รับแจ้งมีกลิ่นเหม็น คล้ายกลิ่นศพ ปมขัดแย้งทางธุรกิจชัด 2 ศพสามีภรรยาท้ายรถ BMW
แล้วพบว่า ผู้ตายนั้นตั้งครรภ์ 8 เดือน โดยผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิทถึงกับไทย โดยพบว่าในรถ มีน้ำเหลืองไหลออกมาจากท้ายรถ ตรวจสอบพบร่างคู่สามีภรรยายัดท้ายรถ บริเวณศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง สภาพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้
คาดว่าผู้ตายถูกทำร้ายมาจากที่อื่น แล้วนำศพมายัดท้ายรถ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ตายเป็นหญิงไทย ได้สัญชาติไต้หวัน ฝ่ายชายมาจากอุบลราชธานี หญิงผู้ชายเดินทางไปศึกษาต่อที่ไต้หวัน เคยทำงานเป็นล่ามมาก่อน และเป็นที่รู้จักกันในนามล่าม การวิเคราะห์ ข่าวอาชญากรรม สามีชื่อนายประเสริฐ แรงงานไทย เรียกกันว่า เฮียมาร์คทำข้าวกล่อง ส่งขายแรงงานไทย ในโรงงานเถาหยวน
ผู้ต้องหาสังหารเป็นคนบ้านเดียวกัน ที่ผู้ชายไว้ใจทำงานเป็นล่าม อยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง และเป็นลูกหนี้ยืมเงิน จากผู้ตายไปปล่อยผู้ให้แรงงานไทย จากการตรวจสอบล่าสุด คนร้ายชาวไทยได้หนีกลับไทย ทั้งนี้อยู่ในระหว่าง การประสานกรมตำรวจไต้หวัน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป