คริส วู ป๊อปสตาร์ชื่อดังถูกควบคุมตัวที่จีน หลังถูกกล่าวหาว่าก่อคดีข่มขืน

คริส วู นักร้องป๊อปสตาร์ชาวจีน-แคนาดา อย่าง ถูกตำรวจปักกิ่งควบคุมตัวและแจ้ง ข้อหาข่มขืน หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่า”หลอกล่อหญิงสาวให้มีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง”
โดยตำรวจได้ออกมาแถลงการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สำหรับคดีของ คริสวู วัย 30 ปี ซึ่งมีชื่อภาษาจีนว่า อู๋ อี้ฟาน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนจากตำรวจในเขตเฉาหยาง
สำหรับข้อกล่าวหานี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้วบน Weibo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ภายใต้ชื่อ “ตู้เหม่ยจู” ซึ่งเธอได้รับการยืนยันแล้วว่าเธอได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อตอนที่เธอยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยการสื่อสารแห่งประเทศจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเธอบอกว่าเธอมีอายุ 17 ปีในขณะที่ถูกล่วงละเมิด
และข้อกล่าวหาดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากที่เธอถูกสัมภาษณ์โดย สำนักข่าวรายใหญ่แห่งหนึ่งของจีน
ทางด้าน คริส วู ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา
คริสวูเกิดในตอนใต้ของจีน แต่เป็นพลเมืองของแคนาดาได้ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ในบัญชี Weibo ส่วนตัวของเขาเมื่อเดือนที่แล้ว และทางต้นสังกัดของเขาประกาศว่ากำลังดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่กล่าวหา โดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข่าวลือที่อันตราย และหลังจากนั้นปรากฏว่าบัญชี
โซเชียลมีเดียที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังและมีผู้ติดตามมากกว่า 51 ล้านคนได้ถูกลบออกจาก Weibo หลังจากคำแถลงของตำรวจ สำหรับคริสวูมีชื่อเสียงและโด่งดังในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม เคป๊อบเกาหลี-จีน ชื่อดังอย่าง EXO จากนั้นก็เป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวหลังออกจากวงในปี 2014 และได้แสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง และเป็นนายแบบให้กับแบรนด์อย่าง Burberry และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ชั้นนำของประเทศ
แต่หลังจากมีข่าวปรากฏว่ามีแบรนด์หลายรายได้แยกตัวออกจากการเป็นผู้สนับสนุน คริสวู เช่น Louis Vuitton แบรนด์ชั้นนำของฝรั่งเศส ที่ตั้งให้ วู เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในปี 2018 ก็ได้ระงับความสัมพันธ์กับคริสวูเช่นกัน รวมไปถึงแบรนด์หรูของอิตาลีอย่าง Bulgari, Porsche China และแบรนด์เครื่องสำอาง Kans อีกด้วย
กระแสที่แสดงถึงกรณีการจับกุม วู และผลที่ตามมาในโลกออนไลน์

แม้ว่า สื่อสังคมออนไลน์ของจีน บางส่วนออกมาแก้ตัวของคริสวูหลังจากมีข่าวว่าจับกุมเขา นอกจากนี้ยังมีกระแสสนับสนุน ตู้ เหม่ยจู ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ กระแสแฮชแท็ค #METOO ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกเมื่อปี 2560-2561 ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงปัญหาเชิงระบบของการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการขาดความรับผิดชอบต่อผู้กระทำที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศ
ทำให้ผู้หญิงใช้แฮชแท็คนี้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบทางเพศ หรือการล่วงละเมิดทางเพศเพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้จากการสำรวจชี้ให้เห็นว่า การล่วงละเมิดทางเพศ เป็นที่แพร่หลายในประเทศจีน
แต่จำนวนการดำเนินคดีที่แท้จริงมีน้อย จากจำนวนประชากรของประเทศ 1.4 พันล้านคน มีเพียง 43,000 คนเท่านั้นที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของสตรี” นับตั้งแต่ปี 2556 ถึง พ.ศ. 2560 จากข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุดของจีน อาชญากรรมเหล่านี้มีตั้งแต่การค้ามนุษย์และการบังคับค้าประเวณีไปจนถึงการข่มขืน