ฟิลิปปินส์ กล่าวหาเรือจีนยิงปืนใหญ่ใส่เรือของตน

ทางการ ฟิลิปปินส์ กล่าวหาเรือยามฝั่งจีนยิงปืนใหญ่ และฉีดน้ำใส่เรือ ที่ส่งเสบียงไปยัง นาวิกโยธิน ของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ บริเวณที่มีข้อพิพาท นายเตโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่าเขาได้แสดง “ความขุ่นเคือง ประณาม และประท้วง” ต่อปักกิ่งเกี่ยว กับเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ขณะที่เรือของฟิลิปปินส์ กำลังเดินทางไปยังชายฝั่งโทมัส ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่กำลังพิพาทกัน “โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เรือของเราต้องยกเลิกภารกิจ ที่กำลังทำอยู่” ล็อกซิน กล่าวในแถลงการณ์บนทวิตเตอร์
โดยอธิบายว่า การกระทำของเรือจีน ทั้งสามลำนั้น “ผิดกฎหมาย” เขายังอธิบายว่าเรือของฟิลิปปินส์ เป็นเรือของพลเรือน และกล่าวว่าพวกเขาได้รับการคุ้มครอง โดยสนธิสัญญา ป้องกันร่วมกัน กับสหรัฐฯด้วย “จีนไม่มีสิทธิ์บังคับใช้กฎหมาย ของพวกเขาในพื้นที่เหล่านี้” เขากล่าวเสริม “พวกเขาต้องระวังสิ่งที่แสดงออกให้มากกว่านี้”
ความขัดแย้งในพื้นที่พิพาททางทะเลระหว่าง ฟิลิปปินส์ และจีน

รายงาน ข่าวต่างประเทศ ความตึงเครียด ในพื้นที่ที่อุดมด้วยทรัพยากร เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีการตรวจพบเรือจีน หลายร้อยลำ ที่แนวปะการังวิทซัน ซึ่งอยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ด้วย ซึ่งจีน อ้างสิทธิ์ ในท้องทะเลเกือบทั้งหมด ซึ่งจะมีผลต่อการค้าขายผ่านเส้นทางนี้ มูลค่าหลาย ล้านล้านดอลลาร์ ต่อปี
จีนอ้างสิทธิ์ ที่กำลังพิพาทกับบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม น่านน้ำที่พิพาทกันนี้ ยังมีพื้นที่ทรัพยาการทางทะเลที่สมบูรณ์ และเชื่อว่ามีแหล่งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งทางการปักกิ่งเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาล อนุญาโตตุลาการถาวร ประจำกรุงเฮกประจำปี 2559 โดยจีนอ้างว่าประวัติศาสตร์เหนือทะเลส่วนใหญ่ไม่มีมูล
และจีนยังได้ควบคุมแนว ปะการังหลายแห่งในทะเลจีนใต้ รวมถึง Scarborough Shoal ซึ่งปักกิ่งยึดได้จากมะนิลาในปี 2555 และอยู่ห่างจากเกาะลูซอน ไปทางตะวันตกเพียง 240 กิโลเมตร พร้อมทั้งได้ยืนยันจุดยืนด้วยการสร้างสันดอน และแนวปะการังขนาดเล็ก ขึ้นในฐานทัพทหาร พร้อมลานบิน และท่าเรือ หลังจากที่จีนเข้ายึดครองแนวปะการัง มิชชีฟ
ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ฟิลิปปินส์ได้ปล่อยเรือ ของกองทัพเรือ ที่ถูกทิ้งร้างบนชายฝั่งทะเลที่อยู่ใกล้ๆ กันเพื่อยืนยันการอ้างสิทธิ์ เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันมีกองกำลังของนาวิกโยธิน ฟิลิปปินส์ ประจำอยู่ที่นั่น
ซึ่ง ล็อกซิน อธิบายในประเด็นนี้ว่า สันดอนอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ และเตือนว่า “ความล้มเหลวในการควบคุมตนเองของจีน จะคุกคามความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ” เขากล่าวว่า “เราไม่ต้องขออนุญาตทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำในอาณาเขตของเรา” แต่สถานทูตจีนในกรุงมะนิลาไม่ตอบสนองต่อความเห็นนี้แต่อย่างใด
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี โรดรีโก ดูแตร์เต ที่ลาออกไปได้พยายาม ที่จะหันหลังให้กับ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตนายอาณานิคมของฟิลิปปินส์ ไปฝักใฝ่ทางจีน ตั้งแต่เขาขึ้นครองอำนาจในปี 2559 แต่สุดท้าย เขาอาจต้องนำพาประเทศ เข้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่คาดไม่ถึง
และเมื่อ เผชิญกับแรงกดดัน ภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ในการดำเนินมาตรการ ที่เข้มงวดขึ้น ในเรื่องนี้ ดูเตอร์เต จึงออกมายืนยันว่าอำนาจอธิปไตย ของฟิลิปปินส์ เหนือน่านน้ำนั้น ไม่สามารถต่อรองได้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี Karlo Nograles กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เราจะยังคงยืนยันอำนาจอธิปไตยของเรา… เหนือดินแดนของเรา”