วลาดิเมียร์ ปูติน กับโจ ไบเดน เข้มข้น เฉือนคมสมกับเป็นสุดยอดผู้นำในการประชุมสุดยอดผู้นำ พร้อมเหน็บ อดีตประธานาธิปบดี

เกิดอะไรขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำ ระหว่างโจ ไบเดน กับ วลาดิเมียร์ ปูติน
วลาดิเมียร์ ปูติน มี นัดประชุม กับ โจ ไบเดน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การประชุมครั้งนี้มีหนึ่งในวาระที่กล่าวถึงการประชุมสุดยอดของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับปูติน เมื่อปี2018ที่ผ่านมา
ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ

ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดตกต่ำที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างสองประธานาธิดี โดยประธานาธิบดีทั้งสองพบกันในที่ประชุมที่เฮลซิงกิเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2018 ซึ่งเป็นการประชุมที่เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการสอบสวนนาย Robert Mueller ที่ปรึกษาพิเศษของรัฐบาลสหรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี2016 ซึ่งประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองครั้งนั้นคือทรัมป์จะกล้าเผชิญหน้ากับปูตินหลังจากมีข่าวอ้างถึงรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่
โดนัลด์ ทรัมป์ กลับคำกลางที่ประชุม โดยกล่าวชื่นชม ปูติน พร้อมตำหนิหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ
ทว่า หลังจากมีการเผชิญหน้ากันระหว่าง ทรัมป์ และ ปูติน ในครั้งนั้นแล้ว กลับกลายเป็นว่าทรัมป์ไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะประณามการแทรกแซงของรัสเซีย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะกล่าวเข้าข้างปูติน และหันกลับมาตำหนิหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเสียเอง “ผมถือว่าทั้งสองประเทศนั้นมีความรับผิดชอบ” ทรัมป์กล่าวระหว่างการตอบคำถามจากสื่อมวลชนอเมริกันเกี่ยวกับประเด็นการถูกแทรกแซงจากรัสเซีย “ผมคิดว่าอเมริกาโง่ เราทุกคนต่างโง่ เราทุกคนต้องถูกตำหนิ” พร้อมยังกล่าวเสริมถึงปูตินในทำนองว่า “เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและมีอำนาจมาก เขายืนกรานถึงการปฏิเสธอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พวกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเข้ามาแจ้งผม พร้อมบอกว่าพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นรัสเซียที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พวกเขาคิดว่า ปูติน มีส่วนรู้เห็น ซึ่งทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผลการสืบสวนบ่งบอกว่าไม่ใช่รัสเซีย และผมได้แจ้งตอบกลับไปว่ามันไม่เห็นจะมีเหตุผลอะไรเลยที่จะกล่าวอ้างเขา”…..ทรัมป์ ชี้แจง

การประชุมล่าสุดระหว่าง โจ ไบเดน กับ ปูติน กลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์อีกครั้ง และกล่าวถึงกรณีทรัมป์ว่าเป็น สีสัน
ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ในการให้สัมภาษณ์พิเศษเรียกอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ ว่าเป็น “บุคคลที่มีสีสัน” และกล่าวว่าเขาสามารถทำงานร่วมกับประธานาธิบดี ไบเดน ได้ โดยปูตินเปรียบเทียบประธานาธิบดีทั้งสองในเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำรัสเซียกับไบเดนที่กำลังจะมีขึ้น “แม้กระทั่งตอนนี้ ฉันเชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายทรัมป์ เป็นบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” ปูตินพูดกับสื่อระหว่างการสัมภาษณ์ที่เข้มข้น และในบางครั้งอาจมีข้อเปรียบเทียบจากความคิดของปูตินอยู่บ้าง เช่น“เขาเป็นคนที่มีสีสัน คุณอาจจะชอบเขาหรือไม่ เขาไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองครั้งใหญ่ระดับโลกมาก่อน ซึ่งอาจจะมีบางคนชอบ หรือบางคนไม่ชอบ แต่นั่นเป็นข้อเท็จจริง”และสำหรับไบเดน ปูตินกล่าวว่าผู้นำของทำเนียบขาวในปัจจุบัน “แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากทรัมป์เพราะประธานาธิบดีไบเดนสมเกียรติในการดำรงตำแหน่งนี้ เขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเป็นตัวอย่างของการเล่นการเมืองที่มีเกียรติ” โดยทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความใกล้ชิดกับปูติน หลังจากการประชุมสุดยอดเพียงครั้งเดียวในเดือนกรกฎาคม 2018 ที่เฮลซิงกิ ทรัมป์ก็เริ่มสร้างกระแสสั่นสะเทือนเมื่อเขาปฏิเสธที่จะเข้าข้างหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯในเรื่องที่ปูตินปฏิเสธการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งปี2016 ในขณะเดียวกัน ไบเดนได้กล่าวหลายครั้งว่าเขาบอกปูตินต่อหน้าว่าเขาไม่มี “จิตวิญญาณ” ในระหว่างการเยือนเครมลินในปี 2011 เมื่อตอนที่เขาเป็นรองประธานาธิบดีแต่ชายทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าปูตินซึ่งถูกกล่าวหาว่าสั่งฆ่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเป็น”ฆาตกร”