เกาหลีเหนือ จัดขวบเดินสวนสนามเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหารและอาวุธนิวเคลียร์

“ดูเหมือนว่า เกาหลีเหนือ จะจัดขบวนสวนสนาม ทางทหารในกรุงเปียงยาง ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี” กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าว ซึ่งนี่จะเป็นการสวนสนามครั้งที่สาม ของประเทศที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ทางการเปียงยาง ยังคงดำเนินโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ซึ่งถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติในระหว่างการห้ำหั่นทางการทูตเมื่อไม่กี่ปีมานี้ และใช้การเดินสวนสนามเหล่านี้เพื่ออวดพัฒนาการด้านอาวุธล่าสุด
ในขบวนสวนสนามครั้งสุดท้าย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสวนสนามก่อนโจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขีปนาวุธจากเรือดำน้ำแล่นผ่านจัตุรัสคิม อิลซุง ต่อหน้าคิมจองอึนที่ยิ้มแย้ม โดยสำนักข่าว KCNA สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนือได้อธิบายว่า สิ่งเหล่านี้เป็น “อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในโลก”
ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าไม่ชัดเจนในทันทีว่ามีระบบอาวุธแบบใดบ้างที่ถูกนำมาร่วมเดินสวนสนาม และในครั้งนี้นายคิม จอง อึน ได้เข้าร่วมด้วยหรือไม่ “เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรายละเอียดเพิ่มเติมยังต้องมีการวิเคราะห์ภายหลัง”

ทางการ เกาหลีเหนือ ไม่ได้ยืนยันว่ามีการเดินสวนสนามเกิดขึ้น แต่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่าเกาหลีเหนือจัดพิธีนี้ขึ้น
แหล่งข่าวใน เปียงยาง บอกว่า มีการนำดอกไม้ไฟประดับในใจกลางเมือง ประมาณเที่ยงคืนและอีกครั้งตอนตี 1 และได้ยินเสียงเครื่องบินไอพ่นบินอยู่เหนือศีรษะ ซึ่งเหมือนเป็นการเตรียมขบวนสวนสนาม ซึ่งในวันพฤหัสบดีนี้จะเป็นวันครบรอบ 73 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือประเทศ เกาหลีเหนือ ที่เรารู้จักกันอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้สื่อทางการของเกาหลีเหนือ ไม่ได้เผยแพร่ภาพขบวนสวนสนามในช่วงเช้าตรู่ และไม่ยืนยันว่ามีการเดินเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเกาหลีเหนือในการปิดบังข่าวสาร นาย ฮง มิน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันการรวมชาติเกาหลีในกรุงโซลกล่าวว่า พวกเขาต้องการใช้การเดินสวนสนามเพื่อส่งข้อความถึงประชาคมระหว่างประเทศ “วิธีเดียวที่จะอวดอาวุธเชิงกลยุทธ์ของพวกเขาคือการยิงพวกมัน ซึ่งเสี่ยงต่อการจุดชนวนการประท้วง และการคว่ำบาตรจากนานาชาติ” เขากล่าวกับเอเอฟพี “ทางเหนือคงรู้สึกว่าจำเป็นต้องกดดันสหรัฐฯ ให้เข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง” เขากล่าวเสริม สำหรับการเจรจาด้านนิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ หยุดนิ่งตั้งแต่การล่มสลายของการประชุมสุดยอดที่ฮานอยระหว่างคิมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องมาตรการคว่ำบาตร และสิ่งที่เกาหลีเหนือยินดีที่จะยอมแพ้เป็นการตอบแทน

เกาหลีเหนือและสหรัฐล้มเหลวทางการฑูตต่อกันในแง่ของการทำให้เกาหลีเหนือล้มเลิกการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
ซุง คิม ทูตเกาหลีเหนือของไบเดน ได้แสดงความตั้งใจซ้ำ แล้วซ้ำเล่าว่าเขาเต็มใจที่จะพบกับเกาหลีเหนือทุกที่ทุกเวลา และฝ่ายบริหารของไบเดนได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมี “แนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับความต้องการของเกาหลีเหนือ” ซึ่งรวมถึงความพยายามทางการฑูต เพื่อเกลี้ยกล่อมให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ สนใจชาวเกาหลีเหนือที่ยากจน ให้เลิกล้มโครงการอาวุธต้องห้าม แต่เปียงยางไม่เคยแสดงข้อบ่งชี้ใดๆ ว่าพวกเขาเต็มใจยอมจำนน เกี่ยวกับคลังอาวุธนิวเคลียร์ของตน และได้ปฏิเสธความพยายามของเกาหลีใต้ในการรื้อฟื้นการเจรจาอีกรอบ เมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยงานปรมาณูแห่งสหประชาชาติ (IAEA) ระบุว่า เปียงยางดูเหมือนจะเริ่มใช้เครื่องปฏิกรณ์เพื่อแปรรูปพลูโทเนียมที่ Yongbyon เรียกมันว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนา น้องสาวของคิม และเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญจของคิมอย่าง คิม โย จอง เรียกร้องให้ถอนทหารสหรัฐออกจากคาบสมุทรเกาหลี และในเวลาเดียวกันนี้ เกาหลีเหนือกำลังอยู่ภายใต้การจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ ตามนโยบายที่กำหนดโดยตนเอง โดยได้ปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการระบาดของโรโรน่าไวรัสที่เริ่มระบาดหนักครั้งแรกในจีนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
ข่าว ต่างประเทศ วันที่ 9 กันยายน 64 เวลา 16.20 น.