โควิดทำเวียดนามป่วน ผลิตไม่ทันส่งออกไม่ได้ ปลายปี 2563

โควิดทำเวียดนามป่วน สำนักข่าว Vietnam News รายงานว่าในปี 2563 เวียดนาม ต้องพบกับปัญหาการส่งออก 2 เรื่อง คือ 1 ค่าขนส่งทางเรือแพง 2 ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เพราะไปตกค้างที่ท่าเรือในสหรัฐอเมริกา และยุโรปจำนวนมาก
แต่เวลานี้เวียดนาม ต้องมาพบเจอกับปัญหาใหม่ที่หนักข้อกับ 2 ปัญหาข้างต้นที่ได้กล่าวมา ปัญหาแรกนั่นก็คือสินค้าที่จะต้องส่งไปให้ลูกค้าในจีน ยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะการผลิตในโรงงานหลายแห่ง เกิดการสะดุด โรงงานต้องปิดสร้างผลเสียต่อระบบ ห่วงโซ่การผลิตโลก

โควิดทำเวียดนามป่วน ได้รับผลกระทบปลายปี 2563
เวียดนามมีคำสั่งซื้อ ต้นทุนจำนวนมากจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่สามารถส่งออกไปให้ลูกค้าได้ จากรายงานการส่งสินค้าทางทะเลพบว่า สินค้าที่ส่งออกไปทางท่าเรือ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 7 หรือ 10 เท่า และยังคงเพิ่มต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ดัชนีค่าการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 40 ฟุต เมื่อกลางเดือนสิงหาคมอยู่ที่ตู้ละ 9,421 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 310,000 บาท ราคาขยับขึ้นมา 350 เปอร์เซ็นต์ จากราคาเดิมเมื่อปีก่อนที่ 88,000 บาท นอกจากนั้นเวียดนาม ยังต้องเจอปัญหา การปิดท่าเรือ เหมือนหลายเมืองในโลก เวียดนามได้ระงับการใช้ท่าเรือบางส่วนของ Terminal นานาชาติ ในท่าเรือของโฮจิมินห์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
และได้หยุดการรับเรือสินค้า ทั้งขาเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย เพราะไม่สามารถจัดการกับสินค้า ที่ค้างอยู่ได้ไม่หมด เนื่องจากต้องลดพนักงานลงร้อยละ 50 ไม่เพียงพอกับงาน หลังจากประกาศปิดเมือง

ผู้อำนวยการบริษัท LTP กิจการผู้นำเข้าและส่งออกในเวียดนามเผยว่าโควิดทำเวียดนามป่วน
ผู้อำนวยการบริษัทLTP ได้เผยว่า เวลานี้มีการสั่งสินค้ามาจากประเทศอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร บริษัทในยุโรปมากกว่าร้อยละ 50 สั่งซื้อสินค้าเกษตรจากเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วงสุดท้าย ของไตรมาสของปี ได้มีการสั่งสินค้ามากกว่าปกติ ไม่เฉพาะสินค้าเกษตรเท่านั้น ที่เกิดปัญหาด้านการส่งออก
ขนาดที่นายทุนต่างชาติ เจ้าของเงินลงทุนโดยตรงจาก fbi ในเวียดนาม เริ่มตั้งคำถามว่า การปิดโรงงานหลายแห่งใน นครโฮจิมินห์ ซิตี้ จะส่งผลกระทบต่อสินค้าห่วงโซ่การผลิตหรือไม่ โดยเฉพาะมาตรการการสั่งปิดโรงงาน ที่พบการติด เชื้อCovit-19 ของพนักงานเวียดนาม กลายเป็นหนึ่งในประเทศของอาเซียน ที่ต่างชาติเข้าไปตั้งโรงงานผลิต ผู้จัดการสินค้ารายการหนึ่งของโลก
จ่านเทียนฟัต ผู้อำนวยการบริษัทดาต้าโลจิสติกส์เวียดนาม เคยว่าเวลานี้มีพนักงานทำงานได้ เพียงร้อยละ 60 ประมาณ 500 คน จากทั้งหมด 830 คน ยอดขายในเดือนกรกฎาคม 2564 ลดลงร้อยละ 40 จาก 600 ล้านบาท เหลือ 360 ล้านบาท
ด้านสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตสิ่งทอและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จำนวนไม่น้อยที่ต้องหยุดงาน และปิดโรงงานไปในที่สุด ขณะที่ความต้องการสินค้าของตลาดโลกกับฟื้นตัว การส่งออกทางฝั่งของเอเชียกำลังสดใสแต่ก็ได้มาติดปัญหาดังกล่าว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดภาวะเงินเฟ้อ ทางฝั่งเอเชียจีนและสหรัฐอเมริกา
ข่าวต่างประเทศ 4/9/2564