
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 65 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า ยอดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 65 เพิ่มขึ้นจำนวน 15,882 ราย จำแนกเป็น
- ติดเชื้อใหม่ 10,462 ราย
- ค้นหาจากผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 133 ราย
- ติดเชื้อภายในเรือนจำ ที่ต้องขัง 87 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประทศและเข้าสถานที่กักกันของรัฐ 200 ราย
- หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 9,482 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 65 จำนวน 277,528 ราย ยอดหายป่วยนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในไทยเมื่อปี 2563 รวม 2,446,022 ราย
- ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่ 124,869 ราย
- เสียชีวิตเพิ่มวันนี้ 24 ราย เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 65 จำนวน 738 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในไทยเมื่อปี 2563 รวม 22,436 ราย
อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ดังนี้
1.กรุงเทพ 2,920 ราย
2.สมุทรปราการ 948 ราย
3.นนทบุรี 826 ราย
4.ชลบุรี 714 ราย
5.ภูเก็ต 462 ราย
6.นครปฐม 394 ราย
7.นครราชสีมา 384 ราย
8.ราชบุรี 376 ราย
9.นครศรีธรรมราช 375 ราย
10.ปทุมธานี 338 ราย
ยอดผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศ รายใหม่ ตามราย “ภาค” วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 10,185 ราย เป็นดังนี้




ที่มา : เพจ FACEBOOK : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 https://www.facebook.com/informationcovid19
จำนวนผู้ที่ได้รับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เพิ่มขึ้น (โดส) สะสมตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 12 กุมภาพันธ์ 65
12 กุมภาพันธ์ 270,440 119,733,753
เข็มที่ 1 45,597 52,774,125
เข็มที่ 2 37,279 49,217,402
เข็มที่ 3 187,564 17,742,226
สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 65
- มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมตั้งแต่เริ่มระบาด 410,674,556 ราย แบ่งเป็นเมื่อ 24 ชม ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 1,852,263 ราย
- อาการรุนแรงสะสมทั่วโลก 87,556 ราย ซึ่งลดลง 920 ราย ใน 24 ชม ที่ผ่านมา
- รักษาหายแล้วรวม 330,783,253 ราย เพิ่มขึ้น 1,924,253 ราย
- ผู้เสียชีวิตรวม 5,828,531 ราย เพิ่มขึ้น 7,718 ราย
ประเทศไทยรั้งอันดับ 30 ของโลก ด้วยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 2,593,327 ราย
ข่าวในประเทศ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 65
นายกฯ สั่งคุมโควิด วันวาเลนไทน์ “รักอย่างไร ไม่ติดโควิด” จัดกิจกรรมต้องเสี่ยงน้อยที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก มีอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นและคาดว่าได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว แม้Omicron จะแพร่เชื้อได้ง่าย มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วย ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในหลายจังหวัด มากขึ้นในลักษณะคลัสเตอร์ในสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในโรงเรียน และตลาด จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการกำกับติดตาม เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถต่อไป พร้อมเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น ด้วยการสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับประชาชน รวมทั้งผู้ปกครองของเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-11 ปี ด้วย เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้เด็กเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และเพื่อให้เด็กนักเรียนได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาตามปกติให้ได้โดยเร็ว โดยขอให้ ศปก.สธ. กทม. และทุกจังหวัด เร่งดำเนินการและอำนวยความสะดวกเพื่อให้เด็กสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างทั่วถึง และมีความพร้อมในการเรียน On Site ได้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ เน้นให้มีการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 รายวัน ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุข โดยให้มีการปรับเกณฑ์และมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด เน้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และการฉีดวัคซีนในเด็กและเด็กเล็ก พร้อมสั่งการให้จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายวันสูง เช่น กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ ราชบุรี เป็นต้น รวมทั้งการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจังหวัดที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ให้ค้นหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และหาวิธีการเพื่อลดจำนวนการติดเชื้อรายวันให้ได้ หรือให้จำนวนลดลงให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน ยังมอบนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรด้านการศึกษารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 2 โดยครูทุกคนต้องถือเป็นหน้าที่ เพื่อให้โรงเรียนปลอดภัย ให้นักเรียนปลอดภัย และให้กระทรวงศึกษาธิการประเมินครูที่ทำหน้าที่สอนทั้งแบบ On line/On site และ On air รวมทั้งต้องมีการประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด “รักอย่างไร ไม่ติดโควิด” ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ประชาสัมพันธ์ในทุกพื้นที่
ที่มา ศบค.